การวางแผนการเงินสำหรับอนาคต
ใครให้เหตุผลได้หรือไม่
ว่าทำไมต้องวางแผนการเงินสำหรับอนาคต แค่มีใช้ในแต่ละวันไม่เพียงพอหรือ
ในบทนี้
เราจะพูดถึงการวางแผนการเงินเพื่อตอนที่เราเกษียณอายุ ไม่มีรายได้จากการทำงานแล้ว เราจะสามารถใช้ชีวิตในวัยเกษียณได้อย่างสุขสบายได้อย่างไร
และเราควรเตรียมตัวเพื่อวันข้างหน้าอย่างไร
|
เราจะเข้าไปคุยรายละเอียดกันว่าแผนการเตรียมหาเงินเพื่อมีไว้ใช้ในยามเราเกษียณทำอย่างไร
แล้วกองทุนสำรองเลี้ยงชีพคืออะไรทำไมจึงเป็นทางเลือกหนึ่งในการออมเงิน
|
เตรียมหาเงินให้พร้อมเพื่อใช้ในวัยเกษียณ
คำว่า วัยเกษียณ บ้างคนอาจคิดว่าอีกยาวไกลกว่าจะถึง
ทำไมเอามาพูดถึงกันตอนนี้ เราลองมาตอบคำถามเหล่านี้ดูกัน
เพราะอาจทำให้บางคนเปลี่ยนความคิดว่าทำไมมาพูดกันตอนนี้ก็ได้
๐ ถ้าเราถึงวัยที่ทำงานไม่ได้ หรือวัยเกษียณ
เราจะมีเงินไว้ใช้จ่ายได้อย่างไร
๐ เคยคิดที่จะออมเงิน หรือหาเงิน
เพื่อเก็บไว้ใช้หลังจากเกษียณหรือไม่
๐ การออมเงินเพื่อใช้ในวัยเกษียณควรเริ่มเมื่อใด
ใครมีคำตอบให้กับตัวเองทั้ง
3 ข้อแล้วบ้าง บางคนอาจบอกว่าไม่ห่วงอยู่แล้ว มีลูกคอยเลี้ยงดูตอนแก่ ถามว่ามั่นใจขนาดนั้นหรือ ยุคนี้ทุกคนต่างก็ต้องดิ้นรนดูแลตนเอง การที่จะหวังพึ่งลูกให้เลี้ยงตอนแก่อาจเป็นไปได้น้อย หรือบางคนก็บอกว่าคอยบำเหน็จบำนาญก็ได้ จะได้มีเงินเดือนใช่ทุกเดือน อย่าลืมเรื่องค่าของเงินที่อาจจะลดลงไปเรื่อยๆ
การวางแผนทางการเงิน
|
เพราะฉะนั้นหากเราไม่เตรียมพร้อมที่จะออมเงินเสียแต่วันนี้อาจจะทำให้เราลำบากในอนาคตก็ได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่มีลูกหลานมาดูแล หรือออกค่าใช้จ่ายต่างๆ ให้เรายิ่งต้องให้ความสำคัญกับการออมเงินเพื่อใช้ในวัยเกษียณให้มากขึ้น นอกจากการออมเงินแล้ว
เรายังควรศึกษาถึงทางเลือกต่างๆที่จะทำให้เงินงอกเงยด้วย
|
เตรียมหาเงินให้พร้อมเพื่อใช้ในวัยเกษียณ
คำว่า เกษียณ บางคนอาจคิดว่ายาวไกลกว่าจะถึง
ทำไมเอามาพูดกันตอนนี้ เรามาตอบคำถามเหล่านี้ดูกัน
เพราะอาจทำให้บางคนเปลี่ยนความคิดว่าทำไมมาพูดกันตอนนี้ก็ได้
๐
ถ้าเราถึงวัยทำงานไม่ได้
หรือวัยเกษียณ เราจะมีเงินไว้ใช้จ่ายได้อย่างไร
๐
เคยคิดที่จะออมเงิน
หรือหาเงิน เพื่อเก็บไว้ใช้หลังจากเกษียณหรือไม่
๐
การออมเงินเพื่อใช้ในวัยเกษียณควรเริ่มเมื่อไร
ใครมีคำตอบให้กับตัวเองทั้ง
3
ข้อแล้วบ้าง บางคนอาจบอกว่าไม่ห่วงอยู่แล้ว มีลูกคอยเลี้ยงดูตอแก่
ถามว่ามั่นใจขนาดนั้นหรือ ยุคนี้ทุกคนต่างก็ดิ้นรนดูแลตัวเอง
การที่จะหวังพึ่งให้ลูกเลี้ยงตอนแก่อาจเป็นไปได้น้อย
หรือบางคนก็บอกว่าคอยบำเหน็จบำนาญก็ได้ จะได้มีเงินเดือนใช้ทุกเดือน
อย่าลืมเรื่องค่าของเงินที่อาจจะลดลงไปเรื่อย ๆ
|
เพราะฉะนั้น
หากเราไม่เตรียมพร้อมที่จะออมเงินเสียตั้งแต่วันนี้อาจทำไห้เราลำบากในอนาคตก็ได้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่มีลูกหลานมาดูแล
หรือออกค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ให้ เรายิ่งต้องให้ความสำคัญกับการการออมเงินเพื่อใช้ในวัยเกษียณให้มากขึ้น
นอกจากการออมเงินแล้ว เรายังควรศึกษาถึงทางเลือกต่าง ๆ ที่จะทำให้เงินงอกเงย ด้วย
การวางแผนทางการเงิน
:
เตรียมหาเงินให้พร้อมเพื่อใช้ในวัยเกษียณ
◊ ถ้าเราถึงที่ทำงานไม่ได้ หรือวัยเกษียณ
เราจะมีเงินไว้ใช้จ่ายได้อย่างไร
◊ เคยคิดที่จะออมเงิน
หรือหาเงิน เพื่อเก็บไว้ใช้หลังจากเกษียณหรือไม่
◊ การออมเงินเพื่อใช้ในวัยเกษียณควรเริ่มเมื่อไร
แผนออมเงินเพื่อใช้ในวัยเกษียณ
การวางแผนเพื่อการออมเงินไว้ใช้ในวัยเกษียณ มีขั้นตอนหลักๆ คือ การสำรวจดูตัวเอง
และเมื่อสำรวจตัวเองเรียบร้อยแล้วจึงเริ่มกำหนดเป้าหมายทาวการเงิน ขั้นตอนสุดท้ายคือ
การกำหนดกลยุทธ์ให้เงินทำงานโดยเราจะเข้าไปดูในรายละเอียดกัน
|
สำรวจตนเอง
ในการสำรวจดูตัวเองนั้น
เราดูว่าตอนนี้เราอายุเท่าไรแล้ว สุขภาพดีหรือไม่ อย่างไร
มีพฤติกรรมการใช้จ่ายอย่างไร รายได้ต่อเดือนเท่าไร
แล้วเป้าหมายที่เราต้องการคืออะไร มีผู้รู้หลายท่านได้ให้แนวทางไว้ว่า
มูลค่าเงินออมไม่ควรน้อยกว่าร้อยละ 10
ของเงินรายได้ทั้งปีคูณด้วยอายุในขณะนั้นของผู้ออม
|
ตามตัวอย่างนี้
ถ้าเราอายุ 25 ปี มีรายได้ปีละ 120,000 บาท เงินออมที่ควรจะมีคือ 300,000 บาท
โดยคำนวณจากร้อยละ 10 ของเงินรายได้คือ 120,000 บาท แล้วคูณด้วยอายุคือ 25 ปี ได้ออกมาเป็น300,000 บาท
การวางแผนทางการเงิน
:
เตรียมหาเงินให้พร้อมเพื่อใช้ในวัยเกษียณ
◊ แผนออมเงินเพื่อใช้ในวัยเกษียณ
กำหนดเป้าหมายทางการเงิน
เพื่อใช้ในวัยเกษียณ
๐ ต้องการมีเงินใช้ในวัยเกษียณเดือนละเท่าไร
๐ คาดว่าจะมีชีวิตในวัยเกษียณนานเท่าไร
กำหนดเป้าหมายทางการเงิน
เมื่อเราสำรวจตัวเราเองแล้ว
เราก็มากำหนดเป้าหมายทางการเงินเพื่อใช้ในวัยเกษียณ เราต้องตอบคำถามให้ได้ก่อนว่าเราต้องการมีเงินใช้ในวัยเกษียณเดือนละเท่าไร
และคาดว่าเราจะมีชีวิตในวัยเกษียณนานเท่าแต่ถึงแม้ว่าเราจะเตรียมการวางแผนการออมไว้แล้ว
ก็ยังมีปัจจัยที่จะมีผลกระทบกับการวางแผนของเรา
เช่น สภาพเศรษฐกิจ อัตราดอกเบี้ย อัตราเงินเฟ้อ เป็นต้น
เราก็ต้องพร้อมกับการปรับแผนการออมของเราด้วย
เราต้องหมั่นติดตามข้อมูลเกี่ยวกับตัวเลขทางเศรษฐกิจดังกล่าวซึ่งสามารถติดตามได้จากแหล่งข้อมูล เช่น
เว็บไซต์ของกระทรวงพาณิชย์หรือเว็บไซต์ของธนาคารแห่งประเทศไทยเป็นต้นเพื่อได้ใช้นำมาใช้เป็นข้อมูลในการปรับแผนการออม
อย่างไรก็ตาม
ใครที่เริ่มออมเงินก่อนแม้ว่าเงินฝากจะมีจำนวนไม่มาก แต่ก็มีโอกาสได้ผลตอบแทนมากกว่า
การวางแผนทางการเงิน
:
เตรียมหาเงินให้พร้อมเพื่อใช้ในวัยเกษียณ
◊ แผนออมเงินเพื่อใช้ในวัยเกษียณ
กำหนดกลยุทธ์ให้เงินทำงาน
เพื่อให้เงินงอกเงย
๐ ให้เงินทำงานแทนด้วยวิธีใด
๐ ต้องการผลตอบแทนเท่าใด
๐ มีความรู้เรื่องการทุนมากเท่าใด
กำหนดกลยุทธ์ให้เงินทำงาน
ปัจจุบันนี้การออมอย่างเดียวคงไม่พอ
ต้องทำเงินออมที่มีอยู่ให้งอกเงยมากขึ้นคือ การให้เงินทำงานแทน
ซึ่งปัจจุบันนี้มีหลายทางเลือกที่จะทำให้เงินทำงานแทน
โดยต้องถามตนเองว่าจะใช้วิธีใดดีเพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่เราต้องการ
แล้วเราเองมีความรู้เรื่องที่จะลงทุนมากแค่ไหน
เพราะที่เราเคยได้ยินกันมาว่าความเสี่ยงและผลตอบแทนเป็นของคู่กันกล่าวคือ
ถ้าต้องการผลตอบแทนสูงมากเท่าใดความเสี่ยงก็ย่อมสูงตามไปด้วย
อย่างไรก็ตามเรื่องสภาพคล่องของเงินก็เป็นอีกปัจจัยที่ต้องนำมาประกอบการตัดสินใจว่าควรจะเลือกวิธีใดที่จะให้เงินทำงานแทน
|
ทางเลือกการทำเงินงอกเงย
ในบทนี้เราจะมาคุยกันถึงทางเลือกในการทำเงินให้งอกเงยเพียง
4
ช่องทางก่อน ได้แก่ การฝากเงิน ลงทุนในตราสาร ลงทุนผ่านกองทุนรวม การทำประกันชีวิต
เรามาดูในแต่ละช่องทางกัน
การวางแผนทางการเงิน
เตรียมหาเงินให้พร้อมเพื่อใช้ในวัยเกษียณ
ทางเลือกการทำเงินให้งอกเงย
ฝาก
ดอกเบี้ย
สถาบันรับฝากเงิน
การฝากเงิน
ช่องทางแรกเป็นเรื่องการฝากเงิน
เราคุ้นเคยเรื่องการฝากเงินมาตั้งแต่รุ่นปู่ ย่า ตา ยาย
โดยเฉพาะการฝากเงินกับธนาคารพาณิชย์ การฝากเงินนับเป็นการลงทุนประเภทหนึ่ง เพราะผู้ฝากเงินมีโอกาสได้รับดอกเบี้ยเป็นผลตอบแทนนอกเหนือจากการฝากเงินที่ธนาคารพาณิชย์แล้วได้ดอกเบี้ย
เราสามารถฝากเงินได้ที่บริษัทเงินทุนแต่จะเป็นรูปของตั๋วสัญญาใช้เงินการลงทุนทุกอย่างมีความเสี่ยง
การฝากที่บริษัทเงินทุก แต่ก็จะได้ดอกเบี้ยน้อยกว่าฝากที่บริษัทเงินทุนด้วย
การฝากเงินเป็นการลงทุนที่มีสภาพคล่องเพราะสามารถถอนเงินออกมาใช้เมื่อใดก็ได้
เพียงแต่จะได้รับดอกเบี้ยตามสิทธิที่ควรจะได้รับหรือเปล่าเท่านั้นเพราะการคิดดอกเบี้ยจะคิดตามระยะเงื่อนไขของการฝากเงิน
เช่น
ถ้าฝากออมทรัพย์จะคิดดอกเบี้ยให้ทุกวันแต่ถ้าเป็นฝากประจำ
(3 เดือน,6 เดือน หรือ 1 ปี)
ดอกเบี้ยจะคิดให้เมื่อฝากครบ 3 เดือน
ถ้าเราต้องการใช้เงินจากที่ฝากประจำไว้ เราไปถอนออกมาก่อนโดยยังไม่ครบกำหนด
เราก็จะไม่ได้ดอกเบี้ย เพราะเวลายังไม่ครบตามเงื่อนไขในการฝาก
ยังมีสถานรับฝากเงินอื่นๆ เช่น
บริษัทเครดิตฟองซิเอร์ หรือบางองค์กรก็มีในรูปของสหกรณ์คือ
เปิดโอกาสให้พนังงานได้เป็นสมาชิกด้วย และได้ผลตอบแทนเป็นรูปของเงินปันผล
การวางแผนทางการเงิน
เตรียมหาเงินให้พร้อมเพื่อใช้ในวัยเกษียณ
ทางเลือกการทำเงินให้งอกเงย
ลงทุนในตราสาร
ตราสารทุน
ตราสารหนี้
การลงทุนในตราสาร
อีกช่องทางหนึ่งที่ทำให้เงินงอกเงยก็คือ
การลงทุนในตราสารซึ่งประเภทของตราสารมีหลายอย่าง แต่ในบทนี้เราจะพูดถึง 2
ประเภทก่อนคือ ตราสารทุนและตราสารหนี้ ซึ่งตราสารทั้ง 2 ประเภทนี้มีความแตกต่างกันในเรื่องต่างๆ
ลงทุนในตราสาร
ตราสารทุน ตราสารหนี้
ลักษณะ เจ้าของกิจการ
เจ้าหนี้ของผู้ออกตราสาร
ผลตอบแทน ได้รับผลตอบแทนในรูปเงินปันผล ได้รับผลตอบแทนในรูปของดอกเบี้ย
ผู้ออก
บริษัทเอกชน
บริษัทเอกชน รัฐบาล รัฐวิสาหกิจ
ความเสี่ยง
ขึ้นกับการบริหารธุรกิจของบริษัทผู้อกหลักทรัพย์ ต่ำกว่าตราสารทุน
ลักษณะและผลตอบแทน
ตราสารทุนจะมีสถานะเป็นเจ้าของกิจการและมีโอกาสได้รับผลตอบแทนในรูปเงินปันผลและหากมีการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ก็มีโอกาสได้กำไรจากการซื้อขายตราสารทุนได้
ส่วนผู้ถือตราสารหนี้จะมีลักษณะเป็นเจ้าหนี้ของผู้ออกตราสารผลตอบแทนที่ได้รับจึงเป็นรูปของดอกเบี้ย
ผู้ออก
ผู้ที่ออกตราสารทุนนั้นจะเป็นบริษัทเอกชน
แต่หากเป็นตราสารหนี้ ผู้ออกตราสารเป็นได้ทั้งบริษัทเอกชน รัฐบาย หรือรัฐวิสากิจ
ถ้าผู้ออกตราสารหนี้เป็นบริษัทเอกชน เราเรียกตราสารแบบนี้ว่า “หุ้นกู้”
แต่ถ้าผู้ออกตราสารหนี้เป็นรัฐบาลำหรือรัฐวิสากิจ เราจะเรียกว่า “พันธบัตรรัฐบาล”
หรือ “พันธบัตรรัฐวิสากิจ”
ความเสี่ยง
ความเสี่ยงของตราสารหนี้จะต่ำกว่าตราสารทุน
เพราะแม้ว่าเศรษฐกิจจะเป็นอย่างไร
ผู้ถือตราสารหนี้ก็ยังคงได้รับดอกเบี้ยที่แน่นอนกว่า ในขณะที่
ตราสารทุนมีความเสี่ยงมากกว่า เราอาจไม่ได้รับปันผลหากบริษัทเกิดการขาดทุนหรือการบริหารธุรกิจมีปัญหา
อย่างไรก็ตาม เราสามารถทราบข้อมูลเบื้องต้นจากงบการเงินของบริษัทได้ว่าจะมีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน
การลงทุนใดๆ
ก็ตาม เราต้องศึกษาข้อมูลของบริษัทนั้นๆ
ให้ดีก่อนถึงแม้ตราสารหนี้จะมีความเสี่ยงต่ำกว่า แต่เราก็ต้องเลือกลงทุนหุ้นกู้ของบริษัทที่มีคุณภาพ
การวางแผนทางการเงิน
เตรียมหาเงินให้พร้อมเพื่อใช้ในวัยเกษียณ
ทางเลือกการทำเงินให้งอกเงย
ลงทุนผ่านกองทุนรวม
ไม่มีความรู้เรื่องการลงทุน
ไม่มีเวลาติดตามข่าวสาร
มีเงินลงทุนจำนวนจำกัด
การลงทุนผ่านกองทุนรวม
สำหรับการลงทุนผ่านกองทุนรวมก็เป็นอีกทางเลือกในการลงทุนสำหรับผู้ที่ไม่มีความรู้เกี่ยวกับการทุนในตราสารทุนและตราสารหนี้หรืออาจไม่มีเวลาในการติดตามข้อมูลข่าวสารเพื่อใช้ในการลงทุน
การลงทุนในกองทุนรวมจะมีผู้บริหารกองทุนที่เป็นมืออาชีพเรียกว่า”บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน”
หรือ “บริษัทจัดการ” ซึ่งมีความเชี่ยวชาญในการวิเคราะห์ตัดสินใจลงทุนเป็นผู้บริหารดูแลกองทุน
การลงทุนรูปแบบนี้เหมาะกับผู้ที่ต้องการลงทุนตราสารหลายๆ
ประเภท หรือต้องการกระจายความเสี่ยงในการลงทุน แต่ว่ามีเงินลงทุนจำนวนจำกัด
ผู้ที่ลงทุนในกองทุนรวมหรือที่เราเรียกว่า
“ผู้ถือหน่วยลงทุน” จะได้รับผลตอบแทนในรูปของเงินปันผลด้วย
เงินทองของมีค่า คู่มือผู้สอน (ม.4-6)
ชื่อหนังสือ เงินทองของมีค่า คู่มือผู้สอน ระดับมัธยมศึกษา
ช่วงชั้นที่ 4 (ม.4-6)
ผู้เขียน
โครงการพัฒนาความรู้เยาวชนสถาบันพัฒนาความรู้ตลาดทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
อำนวยการผลิต
ฝ่ายสื่อสิ่งพิมพ์ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
จัดพิมพ์โดย
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย 62
ถ. รัชดาภิเษก คลองเตย กรุงเทพฯ 10110 โทร. 0-2229-2000
พิมพ์ครั้งที่ 1 เดือน เมษายน 2548
จำนวน 10,000 เล่ม
พิมพ์ครั้งที่ 2
เดือน สิงหาคม 2548
จำนวน 20,000
เล่ม
พิมพ์ครั้งที่ 3
เดือน ตุลาคม 2548 จำนวน 25,000 เล่ม
พิมพ์ครั้งที่ 4
เดือน กุมภาพันธ์ 2549 จำนวน 10,000 เล่ม
ISBN
974-93034-1-4
พิมพ์
บริษัท เจเอสที พับลิชชิ่ง จำกัด
151/66-68 ลาดพร้าว ห้วยขวาง
กรุงเทพฯ 10310
โทร.0-2939-9557-8, 0-2939-9924
สงวนลิขสิทธ์
ห้ามทำลอกเลียนไม่ว่าส่วนใดส่วนหนึ่งของหนังสือนอกจากจะได้รับอนุญาต
นายพันธ์ศักดิ์ เวชอนุรักษ์
รองผู้จัดการ
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย